1 Samuel (th)

7 Items

938. พระคริสต์เป็นนักบวชนิรันดร์ (1 ซามูเอล 2:35)

by christorg

ฮีบรู 2:17, ฮีบรู 3: 1, ฮีบรู 4:14, ฮีบรู 5: 5, ฮีบรู 7: 27-28, ฮีบรู 10: 8-14 ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าทรงแต่งตั้งซามูเอลเป็นนักบวชที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนชาวอิสราเอล(1 ซามูเอล 2:35) พระเจ้าได้ส่งพระเยซูผู้ทรงประหารชีวิตและนิรันดร์มาให้เราเพื่อให้อภัยบาปของเรา(ฮีบรู 2:17, ฮีบรู 3: 1, ฮีบรู 4:14, ฮีบรู 5: 5) พระเยซูทรงเสนอตัวเองให้กับพระเจ้าครั้งหนึ่งเพื่อทุกคนเพื่อเราจะได้รับความสมบูรณ์แบบตลอดไป(ฮีบรู 7: 27-28, ฮีบรู 10: 8-14)

939. พระคริสต์ผู้เผยพระวจนะที่แท้จริง (1 ซามูเอล 3: 19-20)

by christorg

เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15, จอห์น 5:19, จอห์น 6:14, จอห์น 12: 49-50, จอห์น 8:26, กิจการ 3: 20-24, จอห์น 1:14, ลูกา 13:33, ยอห์น 14: 6 ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าทรงแต่งตั้งซามูเอลเป็นผู้เผยพระวจนะเพื่อให้คำพูดทั้งหมดของซามูเอลสำเร็จ(1 ซามูเอล 3: 19-20) ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าสัญญาว่าจะส่งผู้เผยพระวจนะอย่างโมเสส(เฉลยธรรมบัญญัติ 18:15) พระเยซูคือพระคริสต์ผู้เผยพระวจนะอย่างโมเสสซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาว่าจะส่งมาให้เรา(กิจการ 3: 20-24) พระเยซูเป็นผู้เผยพระวจนะที่แท้จริงที่ส่งพระวจนะของพระเจ้ามาให้เรา(จอห์น 5:19, จอห์น 6:14, จอห์น 12: 49-50, จอห์น 8:26) พระเยซูคือพระวจนะของพระเจ้าทำให้เนื้อ(จอห์น 1:14) พระเยซูเป็นผู้เผยพระวจนะที่แท้จริงซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะได้พบกับพระเจ้า(จอห์น 14: 6)

940. พระคริสต์กษัตริย์ที่แท้จริง (1 ซามูเอล 9: 16-17)

by christorg

1 ซามูเอล 10: 1,6-7, 1 ซามูเอล 12: 19,22, 1 จอห์น 3: 8, ฮีบรู 2:14, โคโลสี 2:15, ยอห์น 16:33, ยอห์น 12:31, จอห์น 16:111:13, Zechariah 9: 9, Matthew 16:28, Philippians 2:10, วิวรณ์ 1: 5, วิวรณ์ 17:14 ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าทรงตั้งกษัตริย์เพื่อช่วยคนอิสราเอลจากศัตรูของพวกเขา(1 ซามูเอล 9: 16-17, 1 ซามูเอล 10: 1, 1 ซามูเอล 10: 6-7) ในพันธสัญญาเดิมมันเป็นพยากรณ์ว่ากษัตริย์ที่แท้จริงของอิสราเอลจะมาขี่บนลา(Zechariah 9: 9) กษัตริย์ที่จัดตั้งขึ้นในพันธสัญญาเดิมไม่สมบูรณ์และเป็นกษัตริย์นิรันดร์พระเจ้าทรงเลี้ยงดูพระคริสต์กษัตริย์ที่สมบูรณ์แบบและชั่วนิรันดร์เพื่อทำลายศัตรูของเราปีศาจ(1 จอห์น 3: 8, ฮีบรู 2:14) […]

941. ความรู้ของพระเจ้ามากกว่าการเผาไหม้ (1 ซามูเอล 15:22)

by christorg

สดุดี 51: 16-17, อิสยาห์ 1: 11-18, โฮเชยา 6: 6-7, กิจการ 5: 31-32, จอห์น 17: 3 ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าผ่านซามูเอลสั่งให้กษัตริย์ซาอูลฆ่าชาวอามาลไคท์ทั้งหมดแต่กษัตริย์ซาอูลรอดพ้นจากแกะและวัวควายที่ดีของ Amalek เพื่อมอบให้กับพระเจ้าจากนั้นซามูเอลบอกกษัตริย์ซาอูลว่าพระเจ้าต้องการเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้ามากกว่าการเสียสละ(1 ซามูเอล 15:22) สิ่งที่พระเจ้าต้องการผ่านการเสียสละคือผู้คนของอิสราเอลรู้จักพระเจ้าอย่างแท้จริง(สดุดี 51: 16-17, Hosea 6: 6) ในพันธสัญญาเดิมชาวอิสราเอลเสนอการเสียสละต่อพระเจ้า แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะรู้จักพระเจ้าอย่างแท้จริง(อิสยาห์ 1: 11-18) การเชื่อในพระเยซูในฐานะพระคริสต์คือการรู้จักพระเจ้าและเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเจ้าดังนั้นพระเจ้าจึงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงไปในผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูคือพระคริสต์(กิจการ 5: 31-32, จอห์น 17: 3)

942. พระคริสต์ทรงเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า (1 ซามูเอล 16: 12-13)

by christorg

1 ซามูเอล 13:14 กิจการ 13: 22-23, จอห์น 19:30 ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าทรงแต่งตั้งดาวิดให้เป็นราชาแห่งอิสราเอล(1 ซามูเอล 16: 12-13) ในพันธสัญญาเดิมกษัตริย์ซาอูลไม่เชื่อฟังพระประสงค์ของพระเจ้าดังนั้นรัชกาลของกษัตริย์ซาอูลจึงสิ้นสุดลง(1 ซามูเอล 13:14) พระเยซูเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์(กิจการ 13: 22-23) พระเยซูทรงเติมเต็มพระประสงค์ของพระเจ้าโดยการตายบนไม้กางเขนเพื่อการให้อภัยบาปของเรา(จอห์น 19:30)

943. การต่อสู้คือพระเจ้าและพระคริสต์ (1 ซามูเอล 17: 45-47)

by christorg

2 พงศาวดาร 20: 14-15, สดุดี 44: 6-7, โฮเชยา 1: 7, 2 โครินธ์ 10: 3-5 สงครามเป็นของพระเจ้า(1 ซามูเอล 17: 45-47, 2 พงศาวดาร 20: 14-15) เราไม่สามารถช่วยเราได้ด้วยพลังของเราเองพระเจ้าเท่านั้นที่ช่วยเราจากศัตรูของเรา(สดุดี 44: 6-7, Hosea 1: 7) เราต้องใช้ทุกทฤษฎีและคิดว่าเป็นเชลยและส่งให้พระคริสต์(2 โครินธ์ 10: 3-5)

944. พระคริสต์เป็นลอร์ดแห่งวันสะบาโต (1 ซามูเอล 21: 5-7)

by christorg

Mark 2: 23-28, Matthew 12: 1-4, Luke 6: 1-5 ในพันธสัญญาเดิมเดวิดเคยกินขนมปังซึ่งไม่ควรกินยกเว้นโดยนักบวช(1 ซามูเอล 21: 5-7) เมื่อพวกฟาริสีเห็นสาวกของพระเยซูตัดและกินหูข้าวสาลีในวันสะบาโตพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์พระเยซูจากนั้นพระเยซูก็ตรัสว่าดาวิดก็กินขนมปังซึ่งไม่ควรกินยกเว้นนักบวชและพระเยซูเปิดเผยว่าพระเยซูเองเป็นพระเจ้าแห่งวันสะบาโต(มาร์ค 2: 23-28, มาร์ก 12: 1-4, ลูกา 6: 1-5)