Hebrews (th)

110 of 60 items

521. พระบุตรของพระเจ้าพระคริสต์ (ฮีบรู 1: 2)

by christorg

แมทธิว 16:16, มัทธิว 14:33, ฮีบรู 3: 6, ฮีบรู 4:14, ฮีบรู 5: 8, ฮีบรู 7:28 พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า(มัทธิว 14:33, ฮีบรู 1: 2, ฮีบรู 4:14) พระเยซูพระบุตรของพระเจ้ามาถึงโลกนี้เพื่อบรรลุผลงานของพระคริสต์นั่นคือเหตุผลที่เราเรียกว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์(มัทธิว 16:16, ฮีบรู 3: 6) ในการเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้าพระเยซูทรงทำผลงานทั้งหมดของพระคริสต์โดยการตายบนไม้กางเขน(ฮีบรู 5: 8, ฮีบรู 7:28, จอห์น 19:30)

522. พระเจ้าทรงแต่งตั้งทายาททุกสิ่งให้กับลูกชายของเขา(ฮีบรู 1: 2)

by christorg

V สดุดี 2: 7-9, สดุดี 89: 27-29, มัทธิว 28:18, กิจการ 2:36, กิจการ 10:36, เอเฟซัส 1:10, เอเฟซัส 2: 20-22, แดเนียล 7: 13-14: 15-17, โคโลสี 3:11 พันธสัญญาเดิมพยากรณ์ว่าพระเจ้าจะมอบความไว้วางใจทุกอย่างให้กับพระบุตรของพระเจ้า(สดุดี 2: 7, สดุดี 89: 27-29, ดาเนียล 7: 13-14) ในฐานะพระบุตรของพระเจ้าพระเยซูทรงมีอำนาจทั้งหมดในสวรรค์และบนโลกพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าของทุกคน(มัทธิว 28:18, กิจการ 2:36, กิจการ 10:36) ทุกสิ่งในโลกจะเป็นหนึ่งเดียวในพระคริสต์(เอเฟซัส 1:10) นอกจากนี้พระเยซูทรงสร้างโลกกับพระเจ้า(โคโลสี 1: 15-17)

524. พระคริสต์ผู้อพยพที่เป็นตัวแทนของการดำรงอยู่ของพระเจ้า (ฮีบรู 1: 3)

by christorg

V (โคโลสี 1:15, 2 โครินธ์ 4: 4, จอห์น 14: 9, โรม 9: 5, 1 จอห์น 5:20) พระเยซูพระคริสต์ทรงเหมือนกันกับพระเจ้านอกจากนี้พระเยซูก็เข้ามาในเนื้อหนังและเป็นพระเจ้าที่เราเห็น

525. เกี่ยวกับลูกชายของเขา (ฮีบรู 1: 5-13)

by christorg

ผู้เขียนภาษาฮีบรูอธิบายว่าพระบุตรของพระเจ้าเหนือกว่าเทวดาอย่างไร ทูตสวรรค์ไม่สามารถเป็นบุตรของพระเจ้าได้แต่พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าและพระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของพระองค์(ฮีบรู 1: 5, สดุดี 2: 7, 2 ซามูเอล 7:14) ทูตสวรรค์ทั้งหมดนมัสการพระบุตรของพระเจ้าพระเยซู(ฮีบรู 1: 6, 1 เปโตร 3:22) พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าใช้เทวดาเป็นรัฐมนตรี(ฮีบรู 1: 7, สดุดี 104: 4) พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าได้ทำผลงานของพระคริสต์และกฎระเบียบเหนือทุกสิ่ง(ฮีบรู 1: 8-9, สดุดี 45: 6-7) พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าทำทุกสิ่ง(ฮีบรู 1:10, สดุดี 102: 25) พระบุตรของพระเจ้าพระเยซูทรงนิรันดร์(ฮีบรู 1: 11-12, สดุดี 102: 26-27) พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าทรงตั้งอยู่และปกครองที่มือขวาของพระเจ้าเทวดาทำงานเพื่อช่วยเหลือลูก ๆ ของพระเจ้า(ฮีบรู 1: 13-14, สดุดี 110: 1)

526. พระเจ้ายังเป็นพยานถึงพระเยซูคือพระคริสต์(ฮีบรู 2: 4)

by christorg

มาระโก 16: 16-17, จอห์น 10:38, กิจการ 2:22, กิจการ 3: 11-16, กิจการ 14: 3, กิจการ 19: 11-12, โรม 15: 18-19 พระเจ้าให้สัญญาณและปาฏิหาริย์ของพระเยซูเพื่อเป็นพยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์(ฮีบรู 2: 3, จอห์น 10:38, กิจการ 2:22, แมทธิว 16: 16-17) พระเจ้าทรงแสดงปาฏิหาริย์กับอัครสาวกที่เป็นพยานว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์และเป็นพยานถึงผู้คนว่าพระเยซูคือพระคริสต์(กิจการ 3: 11-16, กิจการ 14: 3, กิจการ 19:11, โรม 15: 18-19)

527. พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพยานถึงพระเยซูคือพระคริสต์(ฮีบรู 2: 4)

by christorg

จอห์น 14:26, จอห์น 15:26, กิจการ 2: 33,36, กิจการ 5: 30-32, พระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นของขวัญให้กับผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูคือพระคริสต์(ฮีบรู 2: 4, กิจการ 2:33, กิจการ 2:36, กิจการ 5: 30-32) พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้เราตระหนักว่าพระเยซูคือพระคริสต์(จอห์น 14:26, จอห์น 15:26, 1 โครินธ์ 12: 3)

528. พระเยซูผู้ซึ่งต่ำกว่าทูตสวรรค์เล็กน้อยเพราะความทุกข์ทรมานจากความตายได้รับการสวมมงกุฎด้วยความรุ่งโรจน์และเกียรติยศ (ฮีบรู 2: 6-10)

by christorg

สดุดี 8: 4-8 แม้ว่าพระเยซูจะสูงกว่าทูตสวรรค์ แต่เขาก็ต่ำกว่าทูตสวรรค์ในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยการตายบนไม้กางเขนสำหรับเรา(ฮีบรู 2: 6-10, สดุดี 8: 4-8)

529. พระคริสต์ผู้บริสุทธิ์เรา (ฮีบรู 2:11)

by christorg

อพยพ 31:13, เลวีนิติ 20: 8, เลวีนิติ 21: 5, เลวีนิติ 22: 9,16,32 พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในพันธสัญญาเดิมว่าถ้าเรารักษาพระบัญญัติของพระองค์พระองค์จะทำให้เราชำระให้บริสุทธิ์(อพยพ 31:13, เลวีนิติ 20: 8, เลวีนิติ 22: 9, เลวีนิติ 22:32) พระเจ้าทรงชำระให้เราด้วยการเสียสละพระเยซูให้เรา(ฮีบรู 2:11)

531. พระเยซูที่เรียกเราว่าพี่น้อง (ฮีบรู 2: 11-12)

by christorg

แมทธิว 12:50, มาระโก 3:35, ลูกา 8:21, โรม 8:29, สดุดี 22:22 ในพันธสัญญาเดิมมันบอกล่วงหน้าว่าพระคริสต์จะประกาศข่าวประเสริฐแห่งความรอดให้กับพี่น้องของเขา(สดุดี 22:22) พระเจ้าทรงชำระให้เราด้วยการทำให้พระเยซูทำผลงานของพระคริสต์และทำให้เราเป็นพี่น้องกันของพระเยซูคริสต์(ฮีบรู 2: 11-12, โรม 8:29) ผู้ที่ทำพระประสงค์ของพระเจ้านั่นคือผู้ที่เชื่อในพระเยซูในฐานะพระคริสต์เป็นพี่น้องของพระเยซู(จอห์น 6:29, แมทธิว 12:50, มาระโก 3:35, ลูกา 8:21)